ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ( iii ) สู่การเป็นผู้นำระดับภูมิภาค
เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (19 มิถุนายน 2561)
ทุ่มทุนซื้อหุ้น DG Packaging ขยายฐานลูกค้าเชิงกลยุทธ์คาดรายได้ปีนี้เติบโตกว่า 20 %
บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (จำกัด) มหาชน หรือ iii ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรของไทย ประกาศเข้าซื้อหุ้น 50% บริษัท DG Packaging Pte. Ltd. (DGP) ประเทศสิงคโปร์ ช่วยขยายฐานลูกค้า เชิงกลยุทธ์ พร้อมผลักดันผลประกอบการให้เติบโตยิ่งขึ้น คาดสร้างยอดขายปี 61 เติบโตกว่า 20 %
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ iii เปิดเผยว่า“คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้ บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้น 50 % ในบริษัท DG Packaging Pte. Ltd. (DGP) ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศสิงคโปร์ที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์และให้บริการรับบรรจุสำหรับสินค้าอันตรายที่ใช้ในการขนส่งสินค้า โดยใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ประมาณ 267ล้านบาท เพื่อขยายฐานลูกค้าสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ โดยประโยชน์ที่ทางบริษัทจะได้รับจาก บริษัท DG Packaging
ได้แก่ 1. จะช่วยให้กลุ่มบริษัทฯสามารถเติบโตและต่อยอดทางธุรกิจในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจืสติกส์ของสินค้าอันตรายในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการทำธุรกิจที่สำคัญของโลก
2. จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจจากการบูรณาการในแนวดิ่ง (Vertical Integrated) ของกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์ และสินค้าอันตรายของกลุ่มบริษัทฯ
3. การเข้าซื้อหุ้น DGP ดังกล่าวเป็นการลงทุนที่จะสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องในระยะยาวให้กับกลุ่มบริษัทฯ โดยล่าสุดในปี 2560 บริษัท DG Packaging มีรายได้ 198 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 31 ล้านบาท ซึ่งการเข้าถือหุ้น DG Packaging ครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ ทริพเพิล ไอ ในการขยายธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นศูนย์กลางทางการค้าในภูมิภาคอาเซียน ยังเป็นศูนย์กลางของตลาดโลจิสติกส์ สินค้าเคมี และสินค้าอันตรายในภูมิภาคนี้ การเข้าถือหุ้นใน DG Packaging ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญของบริษัทฯ จึงเป็นการขยายธุรกิจในเชิงลึกที่จะเพิ่มกำไรให้กับกลุ่มบริษัทฯ ในอนาคต
นอกจากนี้ DG Packaging ยังเป็นบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่ดี โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิในปี 2561กว่า 50 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยทำให้ผลประกอบการของ ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ทริพเพิล ไอ จะได้ประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจของ DG Packaging ซึ่งครอบคลุม 18 ประเทศใน 5 ทวีป
นายทิพย์ ดาลาล กล่าวเสริมว่า “ สำหรับครึ่งปีหลัง 2561 บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีกว่าในครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะเติบโตทั้งปีมากกว่า 20% เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโลจิสติกส์และการส่งออก ซึ่งปีนี้มีปริมาณการส่งออกมีการเติบโตสูงตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจหลักของบริษัทฯทั้งธุรกิจขนส่งทางอากาศ ขนส่งทางเรือ และขนส่งเคมีภัณฑ์ คาดว่าจะเติบโตเป็นไปในทิศทางที่ดี ในธุรกิจขนส่งทางอากาศ พันธมิตรหลักของบริษัทฯ ได้แก่ สายการบิน ไทยแอร์เอเซีย และไทยแอร์เอเซีย เอ็กซ์ มีการเปิดเส้นทางสายการบินใหม่
ซึ่งจะช่วยทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในส่วนธุรกิจขนส่งทางเรือ สายเรือริเชา ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ จะมีการขยายเส้นทางการเดินเรือใหม่ไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง นอกจากนี้สายเรือ CK Line ซึ่งเป็นพันธมิตรในบริษัทฯร่วมทุนของบริษัทฯ จะเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ไปภาคเหนือของประเทศจีน จากปัจจัยเหล่านี้จะล้วนเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งทางเรือให้กับบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่ารายได้จากธุรกิจการขนส่งทางเรือจะเติบโตไม่น้อยกว่า 50%
นอกจากนี้ รายได้ธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ อาทิ การบริหารคลังสินค้าระหว่างประเทศ ก็จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจขนส่งทางอากาศได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์คาดว่าจะมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น จากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและการลงทุนในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ซึ่งบริษัทฯ ได้ขยายพื้นที่คลังสินค้าเคมีเพื่อรองรับการเติบโตไว้เรียบร้อยแล้ว น่าจะได้ประโยชน์จากการปริมาณการขนส่งสินค้าในครึ่งปีหลังซึ่งเป็นช่วง Peak Season”
ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (iii) เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1.การขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) 2. การขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก (Sea Freight and Inland Transport) 3.การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การบริหารคลังสินค้า และการกระจายสินค้า (Logistics Management) และ 4.โลจิสติกส์ครบวงจรสำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย (Chemical & Specialty Logistics) โดยมีบริษัทฯในเครือทั้งหมด 24 บริษัท และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทมหาชน บริษัทข้ามชาติ และบริษัทไทยจำนวนมาก
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/pr/detail/42842