ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โต 20% เซ็นสัญญาร่วม ริเชา รัฐวิสาหกิจจีน

ผู้จัดการออนไลน์ (8 กุมภาพันธ์ 2561) ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ตั้งเป้ายอดขายปี 2561 เติบโต 20% หลังเปิดคลังสินค้าดอนเมือง พร้อมเป็นตัวแทนสายเรือใหม่ รองรับยอดเติบโตการค้าไทย-จีน นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ iii เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2561 ประมาณ 20% โดยได้มีการปรับกลยุทธ์ ทุ่มงบประมาณขยายธุรกิจลอจิสติกส์ที่เหลือค้างจากปีที่แล้วมา 260 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของการค้าของไทย รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจของภาครัฐอีก บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight Business) โดยในปีนี้สายการบินไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้มีการขยายเส้นทาง และเพิ่มจำนวนเที่ยวบินทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ส่วนธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ จะเน้นขยายฐานลูกค้าระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอีคอมเมิร์ซ และกลุ่มลูกค้าจากจีน และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ในส่วนของการให้บริการภายในภาคพื้นอากาศยาน บริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวคลังสินค้าระหว่างประเทศ (International Air Cargo Terminal) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง และเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา พื้นที่ให้บริการ 5,000 ตารางเมตร ที่ได้รับสัมปทานจาก บมจ. ท่าอากาศยานไทย โดยจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80% เนื่องจากมีสายการบินไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ที่มีจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมืองมากที่สุดเป็นลูกค้าหลัก นอกจากนี้ ในส่วนธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเล และทางบก (Sea Freight and Inland Transport Business) ที่มีปริมาณการขนส่งสินค้ากลับมาเติบโตในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ล่าสุด บริษัทเซ็นสัญญาร่วมกับสายการเดินเรือ ริเชา (Rizhao Shipping Lines) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจของเมืองริเชา อยู่ในมณฑลซานตง ทางตอนเหนือของประเทศจีน ให้บริการครอบคลุมในประเทศจีน (ริเชา, เซี่ยงไฮ้) เวียดนาม (โฮจิมินห์) และไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง, ท่าเรือคลองเตย) ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9610000013074
Read more...

หุ้นฮ็อต!! : iii พุ่งรับข่าวดี แต่ระวังราคาแรงทะลุเป้า จับตาขาใหญ่อยู่หรือไป

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย (8 กุมภาพันธ์ 2561) III พุ่งแรงรับข่าวดี ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจจีนเพียงรายเดียวในไทย จับตาสตอรี่หนุนโตอีกเพียบ แถมพบนักลงทุนรายใหญ่เก็บหุ้นราคาสูงสุดถึง 9.80 บาท สวนทางนักวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสมเพียง 5.80 - 7.20 บาท ราคาหุ้นบมจ.ทริพเพิล ไอ มาริไทม์ เอเยนซีส์(III) เด้งแรงพร้อมมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นเกินปกติ โดยราคาทำจุดสูงสุดช่วงเช้าวันนี้ (8 ก.พ.) ที่ 8.60 บาท  ก่อนปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 8.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือ 5.49% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่า 144% เทียบค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า III ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจรภายใต้บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทั้งหมด 24 บริษัท โดยรับบริหารโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และให้บริการทั้งในฐานะผู้ขนส่งและผู้รับบริหารจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและภายในประเทศ ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก ในปี 59 มีสัดส่วนรายได้จากการขนส่งทางอากาศ 67.6% ขนส่งสินค้าอันตราย 21.6% ธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ 5.8% ทางทะเลและทางบก 3.9% อื่นๆ 0.2% III เพิ่งเข้าเทรดใน SET เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 60 ที่ผ่านมา ราคา IPO 4.80 บาท จากนั้นเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยทำ High ที่ 12.50 บาท และ Low ที่ 6.65 บาท ในเดือนแรกที่เข้าซื้อขาย ความร้อนแรงของหุ้น III ทำให้ถูกมาตรการกำกับการซื้อขายติด Cash Balance ถึง 3 ครั้ง ทั้งที่เข้าเทรดมาเพียง 5 เดือน โดยครั้งแรกเมื่อ 11 ก.ย. -  20 ต.ค. 60 ก่อนจะถูกขยายช่วงดำเนินการ ตั้งแต่ 24 ต.ค. -  10 พ.ย. 60 และต่ออีกครั้ง 27 พ.ย. 60 - 05 ม.ค. 61 ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายลดลงและราคาเคลื่อนไหวอยู่ในระดับราว 8-9 บาท ส่องผลประกอบการ III ในปี 59 มีกำไรสุทธิ 89 ล้านบาท ในขณะที่งวด 9 เดือนปี 60 มีกำไรสุทธิสูงถึง 109.54 ล้านบาท โต 45% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 75.48 ล้านบาท ตามความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของธุรกิจขนส่งทางอากาศและธุรกิจขนส่งสินค้าอันตราย แม้รายได้รวมจะเติบโตเพียง 8%ราคาหุ้น III บวกแรงในวันนี้ รับข่าวดีหลังบริษัทแจ้งได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนของสายการเดินเรือเพียงรายเดียวในไทยจาก ริเชา พอร์ต (ฮ่องกง) ชิปปิ้ง มั่นใจหนุนปริมาณการขนส่งทางเรือเพิ่ม และเปิดบริการเต็มรูปแบบไปแล้วในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงมีแผนเข้าซื้อกิจการขนส่งเพิ่มเติมอีก โดยคาดว่ารายได้ในปี 61 จะเติบโต 20% III แจ้ง บริษัท ทริพเพิล ไอ มาริไทม์ เอเยนซีส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนเพียงรายเดียวในประเทศไทยของสายการเดินเรือบริษัท ริเชา พอร์ต (ฮ่องกง) ชิปปิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีเส้นทางการให้บริการครอบคลุมในประเทศจีน เวียดนาม และไทย จากการได้รับเป็นตัวแทนจะเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้า ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือของบริษัทเติบโตขึ้น โดยได้เริ่มให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนม.ค.61 นาย ทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร III เปิดเผยว่า รายได้ในปีนี้จะเติบโต 20% จากปีก่อน หลังได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนสายการเดินเรือจากริเชา พอร์ต (ฮ่องกง) ชิปปิ้ง และการรับรู้รายได้จากการบริหารคลังสินค้าดอนเมืองนอกจากนี้บริษัทศึกษาเข้าซื้อกิจการธุรกิจขนส่งเพิ่ม เพื่อขยายบริการไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย และเตรียมเสนอก่อสร้างคลังสินค้าในสนามบินนานาชาติเพิ่มอีก 1 - 2 แห่งภายในกลางปีนี้ ตรวจสอบความเคลื่อนไหวผู้ถือหุ้น III พบความน่าสนใจเมื่อมีนักลงทุนรายใหญ่เข้าเก็บหุ้นกว่า 3.6% ที่ราคาสูงสุดถึง 9.80 บาท ซึ่งนับว่าสูงกว่าราคาพื้นฐานปี 61 ที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้เพียง 5.80-7.20 บาท สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยแบบรายงานการได้มาหุ้น III โดย นางวรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล ภรรยาของเสี่ยจึง ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 04/09/2560 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 3.639%หรือราว 22 ล้านหุ้น ที่ราคาสูงสุด 9.80 บาท อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านางวรพรรณ จึงทรัพย์ไพศาล ยังคงถือหุ้น III อยู่หรือไม่ จนกว่าจะปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นในครั้งต่อไป โดยล่าสุดผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก (@28 ส.ค. 2560) เป็นดังนี้
  1. นาย ทิพย์ ดาลาล                           141,371,386 หุ้น (23.39%)
  2. นาย วิรัช นอบน้อมธรรม                107,944,074 หุ้น (17.86%)
  3. นาย ธีรนิติ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา    60,710,381 หุ้น (10.04%)
  4. นาย เฉลิมศักดิ์ กาญจนวรินทร์      27,952,484 หุ้น (4.62%)
  5. นาย จิโรจ พนาจรัส                        27,952,484 หุ้น (4.62%)
ขณะที่บล.บัวหลวง ให้ราคาพื้นฐาน III ปี 61 ที่ 7.20 บาท อิง P/E 20 เท่า โดยระบุว่า III มีแนวโน้มที่สดใสจากความต้องการการใช้งานโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการค้า online ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และการเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าให้กับสายการบินเพียงผู้เดียวให้กับสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์ เอเชียเอ็กซ์ ที่คาดว่าจะมีการขยายจำนวนเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง เราคาดกำไรในปี 60-62 ที่ 167, 215, และ 273 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 28% บล.ทิสโก้ มองมูลค่าเหมาะสม III อยู่ที่ราว 5.80 บาท อ้างอิง PER ที่ 20 เท่าสำหรับปี 61 โดยเทียบจาก WICE ที่มีธุรกิจใกล้เคียงกันแต่มีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก และคาดว่าการเติบโตของ III จะโตปีละ 10 – 20%  ในปี 61-62 โดยมีความเสี่ยงสำคัญคือ รายได้หลักที่มาจากการให้บริการแก่แอร์เอเซียที่สนามบินดอนเมืองและการทำสัญญา GSA ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 60% หุ้น III ที่เด้งแรงในวันนี้ นับว่ามีข่าวดีเข้ามาสนับสนุน แถมยังพบว่าต้นทุนของรายใหญ่อยู่สูงกว่าราคากระดาน และราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์ จึงต้องจับตาว่างานนี้นักวิเคราะห์ให้ราคาต่ำเกินไป หรือรายใหญ่ติดดอย หรือหุ้นทั้งหมดอาจถูกเทขายออกมาแล้วก็เป็นไปได้ เรียบเรียง วรวิทย์ จิตรพัฒนากุล อีเมล์ worrawitc@efinancethai.com อนุมัติ อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร ที่มา https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=P&id=jhPWI9Sf3Uw%3D
Read more...

ทริพเพิล ไอ (iii) ตั้งเป้าโต 20% ขยายธุรกิจแอร์คาร์โกและสายเรือใหม่ รองรับอีคอมเมิร์ซบูมหลัง ICAO ปลดธงแดง

บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (จำกัด) มหาชน หรือ iii ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรของไทยเดินหน้าขยายธุรกิจครบทุกด้าน ตั้งเป้าสร้างยอดขายปี 61 เติบโต (เพิ่มเติม…)
Read more...

ทริพเพิล ไอ ( iii ) รุกขยายโลจิสติกส์ทั้งแอร์คาร์โกและสายเรือใหม่ ตั้งเป้าโต 20% รองรับอีคอมเมิร์ซบูม แถมรับอานิสงส์พันธมิตรบินเพิ่มหลายรูท หลัง ICAO ปลดธงแดง

บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (จำกัด) มหาชน หรือ iii ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรของไทยเดินหน้าขยายธุรกิจครบทุกด้าน ตั้งเป้าสร้างยอดขายปี 61 เติบโตประมาณ 20% หลังเปิดธุรกิจใหม่ คลังสินค้าที่ดอนเมือง พร้อมเป็นตัวแทนสายเรือใหม่ รองรับยอดการค้าไทยจีนเติบโตแรง นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ iii เปิดเผยว่า “ในปี 2561 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเห็นภาพการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในอัตราประมาณ 20% จากกลยุทธ์การขยายทุกธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยงบประมาณลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจต่อเนื่องจากปลายปี 2560 กว่า 260 ล้านบาท เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ และการรองรับการขยายตัวของการค้าของไทย รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจของภาครัฐอีกด้วย ส่งผลให้บริษัทฯ คาดว่าจะมีผลกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นด้วย บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight Business) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯประกอบด้วยธุรกิจการเป็นตัวแทนสายการบิน โดยในปีนี้สายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ได้มีการขยายเส้นทางและเพิ่มจำนวนเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการปลดล็อค มาตรฐานสนามบินนานาชาติของ ICAO ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายเส้นทางการบินอย่างแน่นอน สำหรับธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบขายส่งนั้น จะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยโฟกัสที่กลุ่มอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนและประเทศอื่นๆในภูมิภาคที่มีศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฮับในการขยายธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ ในส่วนของการให้บริการภายในภาคพื้นอากาศยาน บริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวคลังสินค้าระหว่างประเทศ(International Air Cargo Terminal) ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง และเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยพื้นที่ให้บริการขนาด 5,000 ตารางเมตร ที่ได้รับสัมปทานจาก บมจ. ท่าอากาศยานไทย โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 80% เนื่องจากมีสายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ซึ่งมีจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมืองมากที่สุดเป็นลูกค้าหลัก โดยธุรกิจคลังสินค้าทางอากาศนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างธุรกิจแอร์ คาร์โก้ของ iii เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากสายการบินไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ที่เป็นลูกค้าหลักแล้วนั้น บริษัทฯ ยังให้บริการ สายการบินชั้นนำ อาทิ สายการบินนกสกู๊ต และสายการบินอื่นๆ ที่มีเส้นทางการให้บริการในสนามบินดอนเมืองอีกด้วย โดยบริษัทฯ คาดว่า จะมองหาโอกาสในการเปิดคลังสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศเพิ่มเติมในสนามบินนานาชาติอื่นๆ ต่อไป นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก (Sea Freight and Inland Transport Business) จะมีปริมาณการขนส่งสินค้ากลับมาเติบโตในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% จากการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นตัวแทนสายการเดินเรือ CK LINES ของประเทศเกาหลีใต้แล้ว ล่าสุด iii ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนเพียงรายเดียวในประเทศไทยของสายการเดินเรือ ริเชา (Rizhao Shipping Lines) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจของเมืองริเชา อยู่ในมณฑลซานตง ทางตอนเหนือของประเทศจีน โดยเริ่มแรกมีเส้นทางการให้บริการครอบคลุม ในประเทศจีน (ริเชา เซี่ยงไฮ้) เวียดนาม (โฮจิมินห์) และไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย) ถือเป็นช่องทางในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทฯ อีกด้วย ด้านขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มตู้ (LCL) นั้น บริษัทฯ คาดจะมียอดขายเติบโตประมาณ 30% จาก ECU Worldwide (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน โดยตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอินโดจีน (Indochina Hub) นายทิพย์ ดาลาล กล่าวเสริมว่า “ด้านกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย (Chemical & Specialty Logistics Business) นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ มีบุคลากรที่มีความรู้และความชำนาญเฉพาะด้าน มีมาตรฐานระดับสากล ทำให้เป็นที่ไว้วางใจแก่ลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ บริษัทฯ กำลังดำเนินการขยายคลังสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 ตร.ม. เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ในปีนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตรายให้บริการไม่ต่ำกว่า 25,000 ตร.ม. นอกเหนือจากคลังสินค้าเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตรายที่ให้บริการในโซนอุตสาหกรรม บริษัทฯ ยังเตรียมขยายพื้นที่คลังสินค้าเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในมากขึ้น ในส่วนของกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และการจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management Business) บริษัทฯ จะเน้นการขยายการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชีย โดยใช้จุดแข็งของบริษัทในกลุ่ม และในส่วนของการจัดการโลจิสติกส์จะเน้นการบริหารต้นทุนและขยายฐานลูกค้าใหม่ สำหรับผลประกอบการของช่วง 9 เดือนแรกปี 60 นั้น เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 1,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 59 และมีกำไรขั้นต้น 414 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 59 ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 45% เป็น 110 ล้านบาทจากกำไรสุทธิ 76 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปี 59 จึงคาดการณ์ว่าผลประกอบการของปี 2560 จะเติบโตสูงขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย อีกทั้งยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย.
Read more...